ง่ายกว่าการยัดเยียด ‘วิชาประวัติศาสตร์’ คือให้เด็กใช้สกิล เอ๊ะ!

หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เห็นชอบการแยกรายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ออกมาเป็น 1 รายวิชาอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นปีการศึกษา 2566 เป็นต้นไป เพื่อต้องการให้เด็กไทยได้เรียนประวัติศาสตร์อย่างหลากหลาย โดยย้ำว่า ‘ไม่ได้เป็นการบังคับให้เด็กรักชาติ แต่ต้องการปรับการเรียนประวัติศาสตร์ของเด็กให้มีความทันสมัยและน่าสนใจเท่านั้น’

เพียงไม่นาน ประเด็นนี้ก็เกิดข้อถกเถียงจำนวนมากถึงแก่นหลักของ “วิชาประวัติศาสตร์” และภาระงานของครูที่เพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้วิชาประวัติศาสตร์ เคยติดเป็น 1 ใน 5 ของวิชาที่ควรถูกยกเลิกมากที่สุด รองจากวิชาลูกเสือ พระพุทธศาสนา พลศึกษา และกระบี่กระบอง นอกจากนี้ในมุมหนึ่งยังถูกมองว่าหลักสูตรวิชาประวัติศาสตร์ยังมีเนื้อหาที่ไม่ครบรอบด้าน เน้นมุมมองด้านเดียวที่ ศธ. ต้องการให้นักเรียนรับรู้

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ พาไปคุยกับ ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน วิทยากรนักเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ และเศรษฐกิจโลก ในงานเสวนา ‘สอนวิชาประวัติศาสตร์อย่างไร ในวันที่เราบอกเด็กไทยให้มองไปข้างหน้า’ ร่วมกับ ตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อตอบคำถามว่าทำอย่างไรให้วิชาประวัติศาสตร์น่าสนใจสำหรับเด็กไทย?

แนะนำข่าวเด็กเพิ่มเติม : เด็ก 7 ขวบกุข่าวขี้เมาฆ่าน้อง

เด็ก 7 ขวบกุข่าวขี้เมาฆ่าน้อง ทำลุงหวิดเป็นแพะ วงจรปิดมัดกรี๊ดลั่นน้องจมน้ำตาย

ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยเทศบาลเมืองเขาสามยอด ตรวจสอบที่เกิดเหตุริมบ่อน้ำในหมู่บ้านซอยบ้านน้อยพัฒนา ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี พบประชาชนมุงดูอยู่บริเวณรอบบ่อจำนวนมาก

โดยที่เกิดเหตุพบ ด.ช.อ้วน (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ่อน้ำ เด็กผู้รอดชีวิตบอกว่าคนที่จับกดน้ำผู้ตายคือ “ตาแต”

พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.เมืองลพบุรี เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่มีเด็ก 3 คนไปเล่นน้ำในสระน้อย มี 1 ในเด็ก 3 คนจมน้ำเสียชีวิต และพี่ชายของน้องวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ว่าน้องชายถูกนายกระแต ขี้เมาประจำหมู่บ้าน บีบคอ และกดน้ำจนตาย

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายอุดร หรือ กระแต ที่ถูกกล่าวอ้าง นายกระแตได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปในบริเวณจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ทั้งหมด ก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานการก่อเหตุ

โดยในช่วงกลางคืนก็ได้มีการนำตัวเด็กพร้อมผู้ปกครองมาสอบปากคำต่อหน้านักจิตวิทยา อัยการ ร่วมทั้งสหวิชาชีพตามกฎหมาย เพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งจากการสอบสวนเด็กทั้ง 2 คน ให้การไม่ตรงกัน และให้การแบบเลื่อนลอย

ทางเจ้าหน้าที่จึงคาดว่าเด็กได้กุเรื่องน้องชายของบีบคอมา เพราะกลัวผู้ปกครองจะดุ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงว่านายกระแตเป็นคนฆ่าเด็ก แต่เป็นเด็กลงไปเล่นน้ำและจมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากพบพยานต์หลักฐานว่าช่วงเกิดเหตุ นายกระแตอยู่ร้านสะดวกซื้อ ห่างจ่ากจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร จึงไม่น่าจะเดินไปในจุดเกิดเหตุได้ทัน